ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2557 ประเทศไทยมีการดำเนินการส่งเสริมด้านพลังงาน ที่ถูกขับเคลื่อนโดยแผนบูรณาการ ด้านพลังงานของประเทศไทย (Thailand Integrated Energy Blueprint: TIEB) ซึ่งประกอบด้วยแผนย่อยรายสาขาด้านพลังงาน 5 แผน คือ แผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศไทย (Power Development Plan: PDP) แผนพัฒนาพลังงานทดแทนและพลังงานทางเลือก (Alternative Energy Development Plan: AEDP) แผนอนุรักษ์พลังงาน (Energy Efficiency Plan: EEP) แผนบริหารจัดการน้ำมันเชื้อเพลิง (Oil Plan) และแผนบริหารจัดการก๊าซธรรมชาติ (Gas Plan) โดยต่อมา จากการประชุมรัฐภาคีอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Conference of the Parties: COP) สมัยที่ 26 ณ เมืองกลาสโกว์ สหราชอาณาจักร ในปี พ.ศ. 2564 ประเทศไทยประกาศ เจตนารมณ์ในการมุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ในปี ค.ศ. 2050 และปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Emission) ภายในปี ค.ศ. 2065 ซึ่งกระทรวงพลังงานได้จัดทำกรอบการดำเนินงานแผนพลังงานชาติ (National Energy Plan: NEP) เพื่อรองรับนโยบายดังกล่าว และให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดทำแผนย่อยรายสาขา เพื่อเป็นแนวทางในการดำเนินการด้านพลังงานของประเทศต่อไป

        ในปี พ.ศ. 2564 กพช. ได้มีมติเห็นชอบกรอบการดำเนินงานของแผนพลังงานชาติ (National Energy Plan: NEP) ซึ่งมีเป้าหมายสนับสนุนให้ประเทศไทยสามารถมุ่งสู่พลังงานสะอาดและลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เป็นศูนย์ (Carbon Neutrality) ภายในปี ค.ศ. 2050 ประกอบด้วยแนวนโยบาย 4 ด้านดังนี้

       • เพิ่มสัดส่วนการผลิตไฟฟ้าใหม่ ให้มีสัดส่วนพลังงานหมุนเวียนไม่น้อยกว่าร้อยละ 50 ร่วมกับระบบกักเก็บพลังงาน
       • การผลิตยานยนต์ไฟฟ้าอย่างน้อยร้อยละ 30 ของตลาดรถยนต์ใหม่ในปี ค.ศ. 2030
       • ลดความเข้มของการใช้พลังงานอย่างน้อยร้อยละ 30 ด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรมการบริหารจัดการพลังงานสมัยใหม่
       • สนับสนุนการเปลี่ยนผ่านพลังงาน (Energy Transition) ตามแนวทาง 4D1E ดังนี้